
Web 2.0 เริ่มต้นในปี ค.ศ. 2004 เป็นระบบที่มีความสามารถในการโยงเครือข่ายทั่วโลกไว้ด้วยกันเช่นกับระบบ web 1.0 แต่เดิม โดยแนวคิดเกิด Web 2.0 เกิดจากผลงานทางวิชาการที่อธิบายถึงลักษณะการเปลี่ยนแปลงของการใช้ประโยชน์จากสื่อ internet ที่ไม่ใช่เพียงอ่านอย่างเดียว แต่มีพฤติกรรมของผู้ใช้ที่เข้าไปแลกเปลี่ยนความคิด หรือสื่อประเภทต่างๆ กันบน Web ซึ่งทำให้เกิด transaction เพิ่มมากขึ้น โดยลักษณะของ Web 2.0 คือ “Interconnection”
v เปรียบเทียบ Web 2.0 กับ Traditional Web
§ เกิดการร่วมมือจากคนจำนวนมาก ผ่านการเชื่อมโยงระหว่างผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลกที่จะสร้างหรือปรับเปลี่ยน content บน Web ได้ เช่น Wikipedia ที่ให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปร่วมมือกันสร้างข้อมูลขึ้นมา มีการอัพเดทในแต่ละปี ใครมีความรู้ก็สามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลได้
§ มีพัฒนากระบวนการทำธุรกิจและการทำการตลาดบน Internet โดยเริ่มมีการแบ่งตลาดธรรมดากับตลาด premium ออกจากกัน เพื่อขาย content ในขณะที่ Web 1.0 ให้อ่านข่าวฟรี แล้วเก็บเงินจาก banner ads
§ สามารถเชื่อมโยงผู้ใช้ทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เช่น customer, supplier และผู้ใช้ภายในองค์กร
v ลักษณะของ Web 2.0
§ สามารถนำข้อมูลไปใช้ในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจและโปรโมทต่างๆ
§ มี interface ที่ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย และมีการโตต้อบซึ่งกันและกัน
§ มีข้อมูลที่ทันสมัย
§ สามารถรวบรวมข้อมูลหรือสร้าง Model ขึ้นมาก่อนที่จะนำเสนอสินค้าออกสู่ตลาด
§ ต้องการทักษะในการเขียนโปรแกรมน้อยลง
v ประเภทของ Web 2.0
1. Communication
2. Information
3. EC Element
v ประเด็นที่สำคัญของ Social Network Services
· ประเด็นเรื่องความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว บางครั้งอาจทำให้ความเป็นส่วนตัวลดน้อยลง
· มีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมและเป็นคำแสลง อีกทั้งการแปลภาษายังไม่ถูกต้องเท่าที่ควร
· เกิดการแข่งขันกันระหว่างผู้ใช้
· มีการทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
· มีการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรม โดยไม่มีการกลั่นกรองอย่างรอบคอบ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียขึ้นได้
v ประเภทสังคมเสมือนจริง
1. Transaction and other business
2. Purpose or interest
3. Relations or practices
4. Fantasy
5. Social networks
6. Virtual words
v ประโยชน์ของการขายสินค้าบนอินเตอร์เน็ต
1. สร้าง Viral Marketing
2. เพิ่ม Traffic ของเว็บไซต์ เช่น เข้าถึงเว็บไซท์ผ่านช่องทางการเข้าถึงใน Facebook
3. เพิ่มช่องทางในการขายสินค้าผ่านเว็บไซด์
4. เพิ่มยอดขาย เพิ่มกำไรให้กับบริษัท
5. เป็นแหล่งของการรับ Feedback จากลูกค้า
v การประยุกต์ใช้ Web 2.0 ในด้านต่างๆ
§ Telemedicine & Telehealth ช่วยให้การรักษาได้ดีมากขึ้น และยังช่วยลดต้นทุน ลดระยะเวลาในการเดินทางเพื่อการรักษา รวมทั้งมีประโยชน์ในการสื่อสารข้อมูลต่างๆ
§ Urban Planning with Wireless Sensor Networks ช่วยในการวางแผนผังเมือง รวมไปถึงการวางโครงข่าย Internet นอกจากนี้ยังมีนำไปประยุกต์ใช้กับการพัฒนาระบบเพื่อให้ไม่มีที่จอดรถที่ว่างเปล่า
§ Mobile Technology in Medicine ช่วยให้สามารถส่งต่อข้อมูลทางการแพทย์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะข้อมูลส่วนตัวของคนไข้รายหนึ่งๆ
§ Offshore Outsourcing ทำให้การ outsource ไปยังประเทศอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น Call Center แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทางด้านข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า
Presentation
1. Behavioral Economics คือ เป็นยุคแรกที่ระบบ IT ถูกนำมาใช้ โดยการนำระบบ IT เข้าไปศึกษาถึงพฤติกรรมการตัดสินใจของมนุษย์ เพื่อเข้าใจถึงแรงจูงใจและความต้องการของลูกค้า ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 มุมมอง
ปัจจัยที่ทำให้เกิดพฤติกรรกมที่ไม่มีเหตุผลเมื่อต้องตัดสินใจด้าน IT
o Novelty Preference
§ ความต้องการที่จะใช้เวลาในการมองหาสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และความต้องการในการแบ่งปันสิ่งใหม่ๆให้กับผู้อื่น โดยอาศัยการสื่อสารเข้ามามีส่วนช่วย
§ ส่วนมากมันจะนำเสนอในสิ่งที่เกินความเป็นจริง ไม่สมดุล
o Social Contagion
§ พฤติกรรมของมนุษย์ที่มักทำตามบุคคลอื่นหรือทำตามคนส่วนใหญ่เห็นได้จากช่วง stock bubble
§ การแพร่หลายของ Internet เป็นผลมาจากพฤติกรรมเช่นนี้ เนื่องจากมีการใช้งานตามๆกันมา
§ การแข่งขันทางธุรกิจก็มักจะมีพฤติกรรมนี้ เพราะต้องพัฒนาตัวเองให้ทันตามคู่แข่ง
o Decision Heuristics การเลือกการตัดสินใจของมนุษย์ มักจะอาศัยข้อมูลที่มีอยู่และอาศัยความพอใจเป็นหลัก ไม่ใช่พิจารณาถึงทางเลือกที่ดีที่สุด
2. Corporate Blog เป็น blog ที่องค์กรใดองค์กรหนึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์อย่างหนึ่ง ซึ่งจะมีหน้าตาที่ง่ายในการโพสต์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1. Internal Blogs เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนความรู้ สื่อสาร ติดตามงานภายในองค์กร
2. External Blogs เป็นบล็อกที่องค์กรเปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการประชาสัมพันธ์สินค้าแก่ลูกค้า รวมไปถึงการรับความคิดเห็นจากลูกค้าด้วย
กลุยทธ์ของ Corporate Blogging
o Build Thought Leadership
o Corporate Culture
o Connecting with Leaders
o Branding
ตัวชี้วัด
o จำนวนสมาชิก
o จำนวนความคิดเห็น
o link ของ blog
o จำนวนครั้งในการกด Share
3. Quantum Computer เป็น super computer ที่ใช้คุณสมบัติเชิงของอิเล็กตรอนมาใช้แทนที่ระบบ bit ในการทำให้คอมพิวเตอร์ประมวลผลได้เร็วมากขึ้นคอมพิวเตอร์ปกติ
ความแตกต่างกับคอมพิวเตอร์ธรรมดา
o การเปิดปิดใช้การหมุนของอิเล็กตรอน
o ใช้คิวบิค
o ทำงานได้ทุกคำสั่งภายในเวลาเดียว ทำให้ประมวลผลได้เร็ว
ประโยชน์
o ส่งข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น
o ตรวจจับบุคคลที่เข้ามาในระบบได้
o ค้นพบหนทางในการปกป้องระบบและเครือข่ายต่างๆ
o สามารถประมวลผลภาพได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที
o อาจพัฒนาต่อยอดไปในการพัฒนาการประมวลผลจากสมองได้
o เป็นต้นกำเนิดของเครื่องย้อนเวลา
4. Micro Blogging คือ การส่งข้อความระหว่างกันในระบบ RSS feed ซึ่งจำกัดในการส่งข้อมูลไม่เกิน 140 ตัวอักษร ตัวอย่างเช่น Twitter
ตัวอย่าง Micro Blogging
o PLURK เป็น micro blogging ที่เป็นภาษาไทย ทำให้สะดวกสำหรับผู้ใช้คนไทยอย่างมาก
o Yammer สามารถสร้างกลุ่มของเราเองได้ เช่น @hotmail ซึ่งทำให้สามารถใช้ติดต่อสื่อสารกันภายในองค์กรเป็นหลัก
o Twitter เป็น Micro blogging ที่ได้รับความนิยมมาก
ประโยชน์
o ใช้ในการติดตามข่าวสาร
o Customer support
o Feed back
o สื่อสารในองค์กร
o ให้ความรู้
ข้อเสีย
o สร้างความรู้สึกรำคาญให้กับผู้รับ Tweets ที่ไม่ได้สนิทสนมด้วย
5.Text Mining การทำเหมืองข้อมูล โดยการเจาะหาข้อมูลใหม่ๆ โดยการสกัดข้อมูลออกมาจากข้อมูลที่มีอยู่แล้ว และนำข้อมูลที่สกัดออกมาได้เอามารวมกัน เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และการคำนวณทางสถิติ
ความรู้ที่ได้จาก Text Minging
o สรุปใจความของข้อมูล เป็นการลดขนาดของข้อมูลลง
o แบ่งประเภทของข้อมูล แล้วทำ Model ขึ้นมาให้จำรูปแบบในการคัดแยกประเภทของข้อมูล เช่น e-mail spam filter
o เป็นการจัดข้อมูล โดยให้ระบบหาความเหมือนและความแตกต่างของข้อมูล เพื่อนำมาเเบ่งประเภทของข้อมูลที่ไม่เคยมีการแบ่งประเภทมาก่อน
o เก็บข้อมูลเป็นคลังข้อมูล เพื่อให้ดึงมาใช้ได้ง่ายขึ้น
o นำมาใช้ในเรื่องของ CRM, เครื่องจักรกล, การสร้างองค์ความรู้
Application
o เพิ่มระดับความลึกในการวิเคราะห์
o คัดแยกและกรอง E-mail
o แยกและระบุกลุ่มของปัญหา
o แอบเข้าไปเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ของคู่แข่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น