Welcome

Welcome to my WORLD!!!

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

คาบ 6: AI613

E-Business & E-Commerce
·        Amazon
                Jeff Bezos เป็นผู้ก่อตั้ง โดยเริ่มแรกขายแค่หนังสือ ต่อมาได้มีการขยายสินค้าประเภทอื่นๆ มากยิ่งขึ้น เช่น โทรศัพท์ เสื้อผ้า เป็นต้น และในช่วยหลังมีการพัฒนาเป็นการจำหน่าย E-book  ขณะเดียวกันเมื่อ Amazon ได้รับความสนใจ ช่วงหลังจึงมีหลายเวปไซต์ที่เลียนแบบรูปแบบธุรกิจของ Amazon เช่น Barns & Noble
·        Click-&-mortar
                เป็นการทำธุรกิจผ่าน Website ต่างๆ เช่น การจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ หรือการทำธุรกรรมการธนาคารผ่านระบบอินเตอร์เน็ท
·        Brick-&-mortar
                เป็นการทำธุรกิจรูปแบบสมัยเก่าที่เป็นการเปิดหน้าร้านเพื่อให้ผู้บริโภคมาซื้อของภายในร้านค้าของตนเอง ซึ่งในบางธุรกิจก็มีทั้ 2 ระบบ คือ มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง ขณะเดียวกันก็มีเวปไซต์เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการจำหน่ายสินค้าด้วย

API: Application Programming Interface
                การที่บริษัทผลิต Service แล้วปล่อยโปรแกรมให้บริษัทอื่น สามารถพัฒนาโปรแกรมของบริษัทได้ เช่น การที่ Apple เปิดโอกาสให้กลุ่มนักพัฒนาพัฒนาโปรแกรม หรือ Application ต่างๆ ให้กับทาง Apple โดยนักพัฒนาจะต้องมี Source Code ในการลิงค์ข้อมูลเข้าไปในบริษัทด้วย ทำให้ปัจจุบันมี Application ต่างๆมากมาย ในบริษัท Apple เป็นต้น

ประโยชน์และข้อจำกัดของ E-Commerce
·        Benefit ของ E-Commerce
-          เพิ่มรายได้ให้กับองค์กร จากการที่สามารถขยายตลาดจากภายในประเทศไปยังต่างประเทศได้
-          เพิ่มช่องทางในการติดต่อกับลูกค้ากับองค์กร
-          ลดเวลาในการเดินทางไปหาซื้อสินค้า
·        ข้อจำกัดของ E-Commerce
-          ผู้บริโภคบางคนยังไม่มีระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ท เนื่องจากขาดโครงสร้างพื้นฐานในเรื่องของระบบอินเตอร์เน็ท
-          ความปลอดภัยในการธุรกรรมยังต่ำ เช่น การซื้อสินค้า On-line เวปไซต์จะต้องมีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจและซื้อสินค้าในที่สุด

Social Commerce
Social Commerce คือ การค้าขาย E-Commerce แบบใช้ประโยชน์จาก Social Media เข้ามาร่วมด้วย โดยมาจากคำ 2 คำมาผสมกันคือ Group+Coupon กลายเป็น Groupon โดยกรุ๊ปปองนั้นเกิดขึ้นและโด่งดังมาจากฝั่งอเมริกา ตัวอย่างเช่น เว็บ Groupon.com ซึ้งจะติดต่อร้านค้าต่างๆ ทั้งร้านอาหาร ร้านสปา คาร์แคร์ และธุรกิจบริการต่างๆ เสนอดีลราคาพิเศษกับลูกค้า โดยเมื่อมีจำนวนคนซื้อดีลครบตามกำหนด จะได้รับส่วนลดพิเศษกว่า 50% ขึ้นไป โดยให้ลูกค้าใช้ Social media ต่างๆทั้ง Facebook และ twitter ในการชวนเพื่อนให้มาร่วมซื้อดีลด้วยกัน เมื่อครบกำหนดจำนวนที่กำหนดไว้ ลูกค้าทุกคนก็จะได้ส่วนลดการซื้อดีลนั้นๆ มูลค่า 50 90% ที่เดียว และหากแนะนำเพื่อนให้มาร่วมเป็นสมาชิกของเว็บนั้น ก็ยังได้รับค่าแนะนำอีก 10$ อีกด้วย
·        E-Catalog
                การทำ Catalog ออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางในการติดต่อสื่อสารระหว่างองค์กรกับผู้บริโภค ทั้งนี้ยังช่วยลดต้นทุนในการประชาสัมพันธ์และขยายกลุ่มผู้บริโภคไปยังกลุ่มใหม่ๆ ได้อีกด้วย
·        Electronic Malls
                การจำลองห้างสรรพสินค้ามาอยู่บนโลกออนไลน์ โดยใช้ระบบเทคโนลียี Second Life เข้ามาช่วย เพื่อให้การจำลองสถานกาณ์เสมือนจริงมากที่สุด โดยผู้เข้าไปยังเวปไซต์สามารถที่จะท่องเที่ยว เดินเล่น เพื่อช้อปปิ้งได้เสมือนไปเดินเล่นห้างสรรพสินค้าของจริง
·        E-Government
                การทำบริการเกี่ยวกับธุรกรรมต่างๆ ระหว่างประชาชนกับรัฐบาลผ่านระบบออนไลน์ ช่วยอำนวยความสะดวกและความรดวเร็วให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น เช่น E-Auction การประมูลเลขทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น

Presentation
1)     Cloud Computing
            John Mc Carthy เป็นผู้เสนอแนวคิดนี้ในปี ค.ศ. 1960 ต่อมาในปี ค.ศ. 1999 จึงมีการพัฒนาเรื่อง Cloud Computing ให้เป็นแนวคิดที่เป็นระบบมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม Amazon เป็นองค์กรธุรกิจแรกที่พัฒนารูปแบบองค์กรให้เข้ากับเรื่อง Cloud Computing จนเป็นแบบอย่างให้กับองค์กรธุรกิจอื่นๆ ได้
5 Esstential Cloud Charateristics
-          On-demand Self-service
-          Broad network access
-          Resource Pooling
-          Rapid Elasticity
-          Measure Service
ประโยชน์ของ Cloud Computing
-          Cost Saving: องค์กรสามารถลดต้นทุนรวมทั้งเงินลงทุนด้านระบบ IT ได้จากค่าใช้จ่ายในเรื่องของการบำรุงรักษาระบบ IT
-          Scalability: ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนระบบให้เหมาะสมกับลักษณะของการืทำงานได้
-          Access to Top-End IT Capacities: ค่าบริการ Cloud Computing ต่ำกว่าการลงทุนติดตั้งระบบ IT จึงเปิดโอกาสให้นักพัฒนาอื่นๆ สามารถพัฒนารูปแบบระบบได้ ทำให้มีความหลายหลายของระบบ
-          Focusing on Core Competencies: เหมือนเรา Outsource ระบบงานไปให้องค์กรอื่นช่วย ทำให้องค์กรสามารถให้ความสนใจในส่วนของกระบวนการหลักขององค์กรได้ดี


2)     Health Informatics
Health informatics คือ การนำข้อมูลที่เกี่ยวกับทางด้านสุขภาพมาผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการทรัพยากร, เครื่องใช้ต่างๆ และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา, การเก็บรักษาและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพ โดยระบบ Health informatics ถูกนำไปพัฒนาใช้งานในหลายด้านไม่ว่าจะเป็น Nursing, Clinical care, Dentistry, Pharmacy, Public health หรือ (Bio)Medical research
ระบบสารสนเทศสุขภาพ (Health Information) หมายถึง สารสนเทศที่เกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมถึงข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข และกิจกรรมสาธารณสุข โดยสารสนเทศสุขภาพแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
1.       ข้อมูลด้านประชากร เศรษฐกิจและสังคม
2.       ข้อมูลด้านสถานสุขภาพ
3.       ข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข
4.       ข้อมูลด้านกิจกรรมสาธารณสุข
5.       ข้อมูลด้านการบริหารจัดการ
ประโยชน์ของสารสนเทศสุขภาพ คือ ทำให้ทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสาธารณสุข และเป็นแนวทางในการวางแผนเพื่อแก้ปัญหาสาธารณสุขได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

3)     Web 2.0
คุณลักษณะของ Web 2.0
1. Network as platform คือ การให้บริการผ่านทางเวปไซต์
2. ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของข้อมูลบนเวปไซต์สามารถดำเนินการใดๆ ก็ได้กับข้อมูลนั้น  
3. ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถสร้าง content ของเว็บไซต์ขึ้นมาได้เอง ตัวอย่างเช่น Digg, Flickr, Youtube , Wiki 
4. RIA (Rich Internet Application) คุณสมบัติของ application ต่างๆจะถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
5. สามารถโต้ตอบระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้งานได้ เกิดเป็น Two-way communication
6. รวดเร็วและง่ายของการส่งข้อมูล
7. มีฟังก์ชั่นการใช้งานจากหลายเวปไซต์มาผนวกเข้าด้วยกัน

ตัวอย่างเว็บไซต์ยุค Web 2.0
-          YouTube เว็บไซต์ที่ให้บริการฟรีเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถ upload และแลกเปลี่ยนคลิปวิดีโอได้อย่างอิสระจากทั่วทุกมุมโลก โดยผู้ใช้งานสามารถชมวิดีโอออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ที่แสดงภาพวิดีโอจากซอฟต์แวร์ Macromedia Flash ซึ่งเป็นโปรแกรมเสริมที่ผู้ใช้งานต้องติดตั้งเพิ่มสำหรับ Web Browser ทั่วไป
-          MySpace ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับผู้ใช้งาน MSN โดยเปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับ MSN เวอร์ชั่น 7 ที่ต้องการให้ผู้ใช้ MSN มีโอกาสได้สร้างเว็บไซต์ส่วนตัวเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารให้กับเพื่อนในกลุ่ม จะมีทั้งส่วนของการเขียนไดอารี่ออนไลน์ การเก็บรูปภาพ วิดีโอ หรือเพลงต่างๆ รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับผู้ใช้ในกลุ่มอื่นด้วย 
-          Facebook เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใช้เพื่อติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สำหรับ ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาจะเน้นการใช้งานเฉพาะนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ต่อมาได้ขยายเครือข่ายออกไปยังมหาวิทยาลัยทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาจนได้รับความนิยมมากขึ้นจึงได้มีการเปิดบริการให้ผู้ใช้ทั่วไปด้วย ปัจจุบันเว็บไซต์ Facebook มีผู้ลงทะเบียนใช้งานแล้วมากมายทั่วโลก 
-          Wikipedia  เป็นเว็บไซต์สารานุกรมออนไลน์หลายภาษาที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน รวมทั้งยังเป็นแหล่งของคลังข้อมูลสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

ผลกระทบของ WEB 2.0

·        ผลกระทบของ WEB 2.0 ต่อการตลาด

ยุคสมัยนี้ตลาดบนอินเตอร์เน็ทเริ่มเปลี่ยนแปลงให้เป็นตลาด นิช มากขึ้น และ Website 2.0 ก็เป็นรูปแบบของ นิช มาร์เก็ดติ้ง ซึ่งที่จริงแล้วหลักความคิดของระบบ Website 2.0 ก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ใหม่นักในการตลาด แต่ก็ถึงว่าต้องต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ที่ใช้ให้มีความสอดคล้องมากขึ้นให้หลาย ๆ ด้าน เช่น การโฆษณา, การชื้อ ขาย, การโปรโมชั่น และการสื่อสารด้านข้อมูลของสินค้าหรือบริการ เป็นต้น

·        ผลกระทบของ WEB 2.0 ต่อวัฒนธรรม

การพัฒนาทางเวปไซต์เข้าไปทำลายวัฒนธรรมหลายประเทศ เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการทางด้าน Internet ทำให้มีการส่งผ่านข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น Hi-Speed Internet ทำให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ ๆ ในการตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ในเรื่องของการแสดงออก ความต้องการเป็นที่ยอมรับในคนหมู่มาก ในบางครั้งก็นำพาไปในทางที่ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม
·        ผลกระทบของผู้ใช้ระบบ Internet ทั่วไป
การพัฒนา WEB 2.0 ทำให้เข้าเวปไซต์ได้รวดเร็วมากขึ้น เพราะเทคโนโลยี  AJAX นอกจากนี้เรายังสามารถทำงานได้ทุกที่ที่มีระบบ Internet อีกทั้งเรายังสามารถที่เผยแพร่ความรู้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มีความชำนาญผ่านสื่อประเภท Blog ได้อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น